ข่าวสารและกิจกรรม

กินอยู่อย่างไรปลอดภัยจาก อุจจาระร่วง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้ ระวัง 5 โรคที่ติดต่อทางอาหารและน้ำ ในช่วงฤดูร้อน ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค และไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย พร้อมขอให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”

1. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea) 

โรคนี้เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปโตซัว หรือพยาธิ เข้าไป ทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว บางรายถ่ายเป็นมูกเลือดได้นะคะ

2. โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) 

ติดต่อโดยการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค พบมากในอาหารปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ มีอยู่ทั้งในเนื้อสัตว์ ไข่ รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเล นมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรืออาหารที่ปรุงทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งคนที่ได้รับเชื้อเข้าไปมักมีไข้ ปวดท้อง เชื้อที่ได้รับทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะอาหารและลำไส้ได้ จึงทำให้มีอาการปวดท้อง ปวดเมื่อย คลื่นไส้อาเจียน อุจจาระร่วงด้วย หรือการติดเชื้อจากอวัยวะอื่น เช่น ข้อกระดูก ถุงน้ำดี หัวใจ ปอด ไต เยื่อหุ้มสมอง ไปจนถึงโลหิตเป็นพิษ ซึ่งหากเกิดในทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ จะมีโอกาสทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยล่ะค่ะ

3. โรคบิด (Dysentery) 

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบา ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการรับประทานอาหาร ผักดิบ รวมถึงน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคด้วยนะคะ หากติดเชื้อก็มักจะมีไข้ ปวดท้องแบบปวดเบ่ง ถ่ายอุจจาระบ่อย และอาจทำให้อุจจาระมีมูกหรือมูกปนเลือดได้อีกด้วย

4. อหิวาตกโรค (Cholera) 

เกิดจากเชื้ออหิวาตกโรค ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อจากอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ ซึ่งหากติดเชื้อโรคนี้จะทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำครั้งละมาก ๆ แต่ไม่มีอาการปวดท้อง จะเกิดอาการขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว เช่น กระหายน้ำ อ่อนเพลีย ปัสสาวะน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะช็อก หมดสติจากการเสียน้ำ และในบางรายที่มีอาการรุนแรงมาก ๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกันค่ะ

5. ไข้ไทฟอยด์หรือ ไข้รากสาดน้อย (Typhoid) 

อีกหนึ่งโรคที่สามารถติดต่อจากอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเช่นกัน ซึ่งเจ้าโรคไข้ไทฟอยด์นี้จะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร และอาจท้องผูกหรือท้องเสียได้ นอกจากนี้เชื้อปนก็อาจปนออกมากับอุจจาระและปัสสาวะเป็นครั้งคราวได้ด้วย ทำให้เราเป็นพาหะนำโรคได้นั่นเองค่ะ 

เพียงแค่ไม่กี่เดือนในปี 2562 มีสถิติจากกรมควบคุมโรคเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคดังกล่าว ดังนี้ค่ะ โรคอุจจาระร่วง 144,948 ราย  โรคอาหารเป็นพิษ 15,801 ราย  โรคบิด 196 ราย  อหิวาตกโรค 1 ราย  ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย 155  ราย และพบผู้เสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วง 1 ราย โห! เห็นสถิติแบบนี้แล้ว เราคงไม่อยากไปร่วมทำยอดสะสมกับเขากันใช่ไหมล่ะคะ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมีวิธีดูแลป้องกันตนเองให้ห่างไกลโรคเหล่านี้มาฝากค่ะ

โรคเหล่านี้ล้วนเป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เราสามารถหลีกเลี่ยงโรคได้ ด้วยหลักการกินอยู่อย่างปลอดโรค ดังนี้ค่ะ

  • ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนทั่วถึงและสะอาด
  • ล้างผัก ผลไม้ด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบและอาหารสุกร่วมกัน เพื่อไม่ให้ปนเปื้อนเชื้อโรค
  • ดูแลครัวให้สะอาด กำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”

ทั้งนี้หากคนใกล้ตัวมีอาการป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เราสามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ดังนี้

  • ให้จิบน้ำผสมสารละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น กินไม่ได้ อยากดื่มน้ำมากกว่าปกติ หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เพื่อช่วยให้ลำไส้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ไม่ควรกินยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคยังอยู่ในร่างกาย
  • หากใช้ยาปฏิชีวนะ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์นะคะ
  • สำหรับเด็กที่ดื่มนมแม่ ให้ดื่มนมแม่ร่วมกับป้อนสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) บ่อย ๆ สำหรับเด็กที่ดื่มนมผง ให้ผสมนมตามปกติแต่ให้ดื่มเพียงครึ่งเดียวของปริมาณที่เคยดื่มแล้วให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) สลับกันไป แต่ห้ามผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ลงในนมผงเด็ดขาดนะคะ

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : mitrpholmodernfarm.com